สมัยนี้ความสามารถในภาษาที่ 2 เป็นเรื่องสำคัญ ปัจจุบันมีเด็กหลายคนเข้าโรงเรียนนานาชาติ ทำให้พูดภาษาอังกฤษได้และภาษาไทยก็พูดได้ที่บ้าน แต่ปัญหาคือเด็กหลายคนได้แค่ฟังกับพูดได้ดี เมื่อไม่ได้รับการกระตุ้นที่ดี การอ่านและเขียนจะเทียบเจ้าของภาษาไม่ได้เลย สุดท้ายคือไม่ได้ซักภาษา
สิ่งที่ต้องทำเพื่อให้ลูกได้เป็นเด็ก 2 ภาษา
1. ภาษาที่บ้านต้องเข้มแข็ง ภาษาที่คุยกันที่บ้านต้องดีก่อน ถึงจะสามารถพัฒนาภาษาที่ 2 ได้ เรื่องนี้สำคัญมาก จะเห็นได้จากตัวอย่างเด็กหลายคนที่พ่อแม่คุยกับลูกเป็นภาษาอังกฤษทั้งที่ตัวเองเป็นคนไทย ไม่ได้ให้ความสนใจสอนหรือพูดคุยภาษาไทยกับลูก ไม่ได้สนใจว่าเด็กจะอ่านเขียนไทยดีหรือไม่ เมื่อลูกเข้าโรงเรียน หากการสอนภาษาอังกฤษของโรงเรียนไม่เข้มพอ เด็กจะออกมาเป็นคนที่ไม่ได้แม้แต่ภาษาเดียว คือได้แค่พอสื่อสารได้ อย่าลืมนะค๊ะว่าเด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน ถ้าเขาไม่ใช่คนที่มีความสามารถด้านภาษาดีเลิศ จะจบที่ไม่ได้ภาษาอะไรเลย เพราะฉะนั้นพ่อแม่ที่เป็นคนไทย ควรพูดภาษาไทยกับลูก ให้ภาษาไทยมีความเข้มแข็งก่อน จึงให้ลูกหัดภาษาอังกฤษ
2. หากพ่อและแม่มีภาษาหลักคนละภาษา ให้ต่างคนต่างพูดภาษาของตนเองเวลาพูดกับลูก เช่น แม่เป็นคนไทย พ่อเป็นฝรั่งเศส ก็ให้แม่พูดไทยกับลูกเสมอ และพ่อพูดฝรั่งเศสเสมอ ไม่เปลี่ยนแปลง หากคุณต้องคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ ก็คุยกันได้เมื่ออยู่ครบทั้งครอบครัว แต่คุณแม่จะไม่ข้ามไปพูดฝรั่งเศสกับลูก เพราะนอกจากเราจะไม่ใช่สำเนียงเจ้าของภาษาแล้ว เด็กก็จะสับสนด้วย
3. ถ้าทั้งคู่ไม่เก่งอังกฤษ อย่าพูดภาษาอังกฤษกับลูก ถ้าให้ลูกเข้าโรงเรียนนานาชาติแล้ว เด็กสามารถเรียนรู้ปรับตัวได้ ช่วงแรกอาจจะยากหน่อย แต่ไม่นานเขาจะทำได้เอง คุณอาจจะอ่านหนังสือให้ลูกเป็นภาษาอังกฤษได้ แต่ช่วงที่คุยกันให้คุยภาษาที่คุณถนัด
4. อย่าเอาแต่ให้ลูกเรียนในห้องเรียน วิธีพัฒนาภาษาที่ดีที่สุดคือการได้ใช้ ลองพาลูกไปเข้ากลุ่ม playgroup ที่มีเด็กจากต่างชาติร่วมด้วย หาเพื่อนเล่นที่พูดอีกภาษาให้ลูก ดูภาพยนตร์เป็นภาษาอังกฤษ หรือใช้ภาษาอังกฤษด้วยวิธีอื่น ๆ ยิ่งลูกเล็ก ๆ เราไม่แนะนำให้ไปเรียนพิเศษภาษาต่าง ๆ จริงอยู่ที่การหัดยิ่งเล็กยิ่งเป็นเร็ว แต่เด็กที่ได้ใช้เวลากับพ่อแม่ ได้วิ่งเล่น เรียนรู้จากสิ่งรอบตัวจะมีพัฒนาการที่ดีกว่าเด็กที่ต้องนั่งอยู่แต่ในห้องเรียน ซึ่งพัฒนาการโดยรวมของลูกย่อมสำคัญกว่าเสมอ
การพูดได้หลายภาษาเท่ากับเป็นการได้ออกกำลังสมอง ทำให้เป็นคนคิดวิเคราะห์เก่ง จัดการเวลาได้ดี ทำงานได้หลายอย่างในเวลาเดียวกัน และยังช่วยป้องกันโรคสมองเสื่อม
การที่เด็กจะฟัง พูด อ่าน เขียนได้เหมือนเจ้าของภาษาได้มากกว่า 1 ภาษา ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่ว่าจัดที่เรียนภาษาให้แล้วเด็กจะสามารถพูดได้ทุกคน จำไว้เสมอว่า เด็กแต่ละคนไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะเก่งด้านภาษา ด้านดนตรี ด้านกีฬา ด้านการคิดคำนวณ ฯลฯ เพราะฉะนั้น อย่ากดดันลูกเมื่อเขาทำไม่ได้ และอย่าเปรียบเทียบลูกกับเด็กบ้านอื่น หาจุดแข็งของลูกและพัฒนาจุดนั้นจะดีกว่า

Ondine Ullman
บทความนี้รวบรวมมาจากการบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ จัดโดย International Parenting Network (IPN) ภายใต้หัวข้อ “How To Raise Bilingual Children” โดย Ondine Ullman ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาและการพัฒนาภาษาอังกฤษของเด็กที่ไม่ได้พูดอังกฤษเป็นภาษาหลัก
credit: https://th.theasianparent.com/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81-2-%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%B2-%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89-%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B5/2/
No comments:
Post a Comment