Friday, May 5, 2017

Take it easy!!!

Take it easy!!! ใจเย็นๆ ปล่อยวางและผ่อนคลาย
ในเวลาการทำงานอย่างรอบคอบจะมีเรื่องราวให้คิดมาก และอยู่สถานการณ์ภายใต้ภาวะความกดดันบ่อยๆ เราจะใช้คำว่า
"Take it easy." จงปล่อยวาง และใจเย็นๆ
ตัวอย่างประโยค
Joy: I'm going to have the job interview tomorrow at 9 a.m.
ฉันจะมีสัมภาษณ์งานพรุ่งนี้เก้าโมงเช้า
Jan: Take it easy. Don't be nervous. I'm sure, you can do it.
ใจเย็นๆ อย่าประหม่าไปเลย ฉันมั่นใจว่าคุณทำได้แน่นอน
คำศัพท์เพิ่มเติม
** I can't breathe. ==> โอ้.. ฉันหายใจไม่ออก ไม่สะดวก
** Take a deep breathe. ==> ถอนหายใจลึกๆ
** Calm down. ==> สงบสติอารมณ์ ใจเย็นๆ
** Don't worry. ==> อย่ากังวลไปเลย
** Do your best. ==> ทำให้ดีที่สุด
** Good luck! ==> โชคดีนะ
** Great job/ Well done ==> ทำได้ดีมาก

ความแตกต่างระหว่าง "Dessert" ของหวาน vs "Desert" ทะเลทราย

ความแตกต่างระหว่าง "Dessert" ของหวาน vs "Desert" ทะเลทราย

ความแตกต่างระหว่าง "Dessert" ของหวาน vs "Desert" ทะเลทราย
คำสองคำนี้ "Dessert" vs "Desert" ดูเหมือนกันว่าไม่น่าจะมีอะไรที่แตกต่างกันมาก มองดูแล้วต่างกันแค่ "s" เพิ่มอีกตัว
แต่จริงๆแล้ว หากเขียนผิดและออกเสียงผิดแล้ว ความหมายผิดเพี้ยนไปเลย
1. "Dessert" อ่านว่า .. ดี-เสิรท แปลว่า "ของหวาน"
(ถึงแม้จะมี s สองตัว เป็นตัวสะกด แต่ในเวลาอ่านอย่างถูกต้องจะไม่อ่านให้มีเสียงตัวสะกดเป็น "เดส")
เช่น I like eating dessert. ผมชอบกินของหวาน
2. "Desert" อ่านว่า .. เด๊ส-เสิรท แปลว่า "ทะเลทราย"
(ถึงแม้จะมี s เป็นตัวสะกดแค่ตัวเดียว แต่ในเวลาอ่านที่ถูกต้องจะอ่านให้มีเสียงตัวสะกดด้วยตัว s ก่อน)
เช่น The Sahara is the largest desert in the world. ซาฮาร่าเป็นทะเลทรายที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปล. หลายๆคนจำสับสนกันแน่นอน ดังนั้นให้ท่องจำแบบนี้
"อะไรดีๆ ทานได้ ให้นึกถึง "ดี-เสิร์ท" dessert"
ส่วนอะไรเป็นของตาย ขยับเขยื้อนไม่ได้ให้นึกถึงคำว่า "เดท" เลยกลายเป็น "เดท-เสิร์ท" แปลว่า ทะเลทราย ค่ะ

สแลงสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กัน มาดูกันเลย

สแลงสำนวนภาษาอังกฤษที่ใช้กัน

มาดูกันเลยค่ะ


After all – อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม
But after all, they are our children.
แต่อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เป็นลูกๆ ของเรา

Around the corner – อยู่ใกล้ๆ อยู่ไม่ไกล ใกล้เข้ามาแล้ว
The examination is right around the corner.
การสอบใกล้เข้ามาเต็มทีแล้ว


As far as I am concerned - ตามความเห็นของฉัน ตามความคิดฉัน เท่าที่ทราบ
As far as I am concerned, he should get fired.
ตามความเห็นฉันน่ะนะ เขาควรถูกไล่ออก

Ask for trouble – หาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว แส่หาเรื่อง
We are asking for trouble if we miss another class.
พวกเรากำลังหาเรื่องใส่ตัวถ้าขาดเรียนอีกวิชา

Be out of order – เสีย ใช้การไม่ได้ ไม่เข้าท่า ไม่เป็นระเบียบ
Your idea is out of order.
ความคิดของคุณไม่เข้าท่าเลย

Better than nothing – ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
Maybe it’s not as good as the first, but it’s better than nothing.
บางทีมันอาจไม่ดีเท่าอันแรก แต่ก็ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย

Break a promise – ผิดสัญญา ไม่รักษาคำพูด ไม่ทำตามสัญญา
I told you, I never break a promise.
ฉันบอกกับคุณแล้วว่าฉันไม่เคยผิดสัญญา

Calm down - สงบสติอารมณ์ สงบใจ ทำใจให้สงบ ทำให้สงบ
Why don’t you just calm down?
ทำไมไม่สงบใจลงบ้าง?

Catch up with – ตามทัน ไล่ทัน พบ
I’ll catch up with you later.
ฉันจะมาเจอนายทีหลัง

Cheer up - ให้กำลังใจ ปลอบใจ ทำให้รู้สึกดีขึ้น ทำให้ร่าเริงขึ้น
Hey, maybe we can cheer him up a bit.
เฮ้ เราอาจจะช่วยให้เขารู้สึกดีขึ้นสักนิดได้นะ

Cope with – จัดการกับ รับมือกับ
How do you cope with loneliness?
คุณรับมือกับความเปล่าเปลี่ยวได้อย่างไร?

Cross the line – ล้ำเส้น ข้ามเส้น ข้ามแดน
You’re starting to cross the line.
คุณกำลังจะเริ่มล้ำเส้นแล้วนะ

Day in and day out - ตลอดเวลา อย่างต่อเนื่อง ไม่มีหยุด
I have to answer the phone day in and day out.
ฉันต้องรับโทรศัพท์ไม่มีหยุดหย่อน

Deal with – ติดต่อกับ จัดการกับ เกี่ยวข้องกับ รับมือกับ
I will deal with these later.
ฉันจะจัดการกับเรื่องเหล่านี้ทีหลัง

Every now and again – เป็นครั้งคราว
It’s good to be lonely every now and again.
ดีที่ได้เป็นโสดบ้างเป็นครั้งคราว

Every now and then – เป็นครั้งคราว
Every now and then I go to town and spend lots of money.
ฉันเข้าไปในเมืองและใช้จ่ายเงินจำนวนมากเป็นครั้งคราว

Face to face - ซึ่งๆ หน้า จะๆ ต่อหน้า ประจันหน้า
He wants to meet you face to face.
เขาอยากพบกับคุณซึ่งๆ หน้า

Figure out – คิดออก คิดให้ออก คิดได้
I’m going to figure it out sooner or later.
ฉันจะคิดมันออกไม่ช้าก็เร็วนี่แหล่ะ

Finish up – ทำให้เสร็จสิ้น จบลง ยุติ
Let’s finish this up this afternoon.
พวกเรามาทำนี่ให้เสร็จบ่ายนี้กันเถอะ

From now on – จากนี้ไป จากนี้เป็นต้นไป ต่อแต่นี้ไป นับจากนี้ไป
From now on I’m not gonna do anything I don’t like.
จากนี้เป็นต้นไปฉันจะไม่ทำสิ่งใดก็ตามที่ฉันไม่ชอบอีก

From time to time – บางครั้ง
You’ll hear that from time to time.
คุณจะได้ยินเรื่องนั้นเป็นบางครั้ง

Get lost - หลงทาง แต่ถ้าเป็นคำสั่งจะเป็นในเชิงการไล่ แปลว่า ไปให้พ้น ไปให้ห่างๆ ไสหัวไป
Take a map with you in case you get lost.
เอาแผนที่ไปด้วยในกรณีคุณหลงทาง

Get together – พบปะ รวมตัวกัน รวมกลุ่มกัน พบปะสังสรรค์กัน
I thought we should get together and talk.
ฉันคิดว่าพวกเราควรออกไปพบปะและพูดคุยกัน

Go for a walk – เดินเล่น ไปเดินเล่น ไปกินลมชมวิว
Let’s go for a walk in the wood.
พวกเราไปเดินเล่นในป่ากัน

Hang out – ออกไปข้างนอก ออกไปสังสรรค์
She does not want me to hang out with her.
เธอไม่อยากให้ฉันออกไปเที่ยวด้วย

Have a good time – สนุกสนาน เพลิดเพลิน ขอให้สนุกนะ
I hope you have a good time at the beach.
ฉันหวังว่าคุณคงจะไปเที่ยวหาดนั่นอย่างสนุกนะ

Hold one’s ground – ยึดมั่นอยู่ที่เดิม ไม่ถอย ตั้งรับ ตั้งมั่น รักษาสถานะไว้
If you hold your ground, then you might have a chance.
ถ้าคุณไม่ถอยคุณก็อาจมีโอกาส

In advance – ล่วงหน้า ก่อนหน้า ก่อนเวลา
Could you pay me in advance?
คุณช่วยจ่ายฉันก่อนล่วงหน้าได้ไหม?

Keep a promise – รักษาสัญญา ทำตามสัญญา
I must keep a promise I made.
ฉันต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้

Keep an eye on – เฝ้าดู เฝ้ามอง จับตาดู
Keep an eye on the baby, please.
ได้โปรดช่วยดูเด็กให้ด้วย

Keep away from – อยู่ห่างจาก หลีกหนีจาก หลีกเลี่ยงจาก
Keep away from the doors and windows.
ออกไปให้ห่างจากประตูและหน้าต่าง

Keep in touch – ติดต่อกันไปเรื่อยๆ ติดต่อกันไม่ได้ขาด
Remember to keep in touch when you are aways.
อย่าลืมติดต่อกันเมื่อคุณจากไปล่ะ

Keep one’s eye on – เฝ้าดู เฝ้ามอง จัดตาดู
I’m keeping my eye on you.
ฉันกำลังเฝ้ามองคุณอยู่

Keep one’s word – รักษาคำพูด รักษาสัจจะ ทำตามที่พูดไว้
I always keep my word.
ฉันรักษาคำพูดเสมอ

Let someone down – ทำให้ผิดหวัง
Don’t let me down this time.
คราวนี้อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ

Lose one’s temper – อารมณ์เสีย เสียอารมณ์ โกรธ ขุ่นเคือง
I promise! I’ll never lose my temper again!
ฉันสัญญา ฉันจะไม่โกรธอีกแล้ว

Lose one’s way - หลงทาง จำทางไม่ได้
I’ve lost my way somewhere
ฉันหลงไปที่ใดที่หนึ่ง

Lose sight of – ลืม ลืม(วัตถุประสงค์) ไม่เห็น มองไม่เห็น
I must not lose sight of my mission.
ฉันต้องไม่ลืมเลือนภาระหน้าที่ของฉัน

Make a deal with – ทำข้อตกลงกับ
If you want a job, you’ll have to make a deal with him.
ถ้าคุณอยากจะได้งาน คุณจะต้องทำข้อตกลงกับเขา

Make a promise - ให้สัญญา ทำสัญญา
I want you to make me a promise.
ฉันอยากให้คุณสัญญากับฉันข้อหนึ่ง

Move away from – ผละจากไป ออกจาก ถอยออกจาก
Everyone, move away from the windows!
ทุกคน ถอยออกจากหน้าต่างนั่น

On behalf of – ในนามของ (ทำบางสิ่ง)ในนามของ
I’m happy to deliver a statement on behalf of the company.
ฉันยินดีที่ได้กล่าวสุนทรพจน์ในนามของบริษัท

Once in a while – นานๆ ครั้ง เป็นครั้งคราว ชั่วครั้งชั่วคราว
l still think about her once in a while.
ฉันยังคงคิดถึงเธอบ้างเป็นบางครั้ง

Out of date - ล้าสมัย เชย โบราณ ไม่ทันยุค
He said I was out of date.
เขาบอกว่าฉันเชย

Pave the way – ปูทาง กรุยทาง แผ้วทาง
This will pave the way for future success.
สิ่งนี้จะเป็นการปูทางไปสู่ความสำเร็จในอนาคต

Piss off – ไปให้พ้น ไปให้ไกลๆ เลยไป (พูดเนื่องจากมีน้ำโห) (เป็นคำไม่สุภาพ)
Piss off! Don’t come near me again.
ไปไกลๆ เลยไป อย่าเข้ามาใกล้ฉันอีก

Put off – เลื่อนออกไป ยืดเวลาออกไป แก้ตัว ถอด(เสื้อผ้า)ออก
I’ll call him to put off my appointments till noon.
ฉันจะโทรหาเขาให้เลื่อนนัดของฉันไปจนถึงเที่ยง

Put pressure on – กดดัน บีบบังคับ
You put too much pressure on yourself.
คุณกดดันตัวเองมากเกินไปแล้ว

Put up with – อดทน ทน ทำใจ
Why do you put up with it? You could do better.
ทำไมคุณต้องทนกับมันด้วย คุณทำได้ดีกว่านี้

Run out of - หมด ขาด ร่อยหรอ
We’re going to run out of fuel in 90 minutes.
พวกเรากำลังจะไม่มีน้ำมันเหลือใน 90 นาทีนี้

Shed (some) light on – เปิดเผย ให้ความกระจ่าง ทำให้เข้าใจง่าย
Can anyone help me shed some light on this question?
ใครพอจะช่วยให้ฉันเข้าใจคำถามนี้บ้างไหม?

So far - นอกจากความหมายทีแปลว่าไกลมากแล้ว ยังหมายถึง จนถึงทุกวันนี้ จนเดี๋ยวนี้ จนถึงบัดนี้
So far as we know, there were no survivors.
เท่าที่เราทราบจนถึงบัดนี้ไม่มีใครรอดชีวิต

Sooner or later - ไม่ช้าก็เร็ว
Sooner or later you’re gonna have to face the fact.
ไม่ช้าก็เร็วคุณจะต้องเผชิญหน้ากับความจริง

Stay in touch - ติดต่อกันไปเรื่อยๆ ติดต่อกันเสมอ ส่งข่าวถึงกัน ยังติดต่อกันอยู่
Please don’t stay in touch.
โปรดอย่าได้ติดต่อกันอีกเลย

Sunday, April 23, 2017

สอนลูกเป็นเด็กสองภาษาได้อย่างไร...เมื่อพ่อแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย

สอนลูกเป็นเด็กสองภาษาได้อย่างไร...เมื่อพ่อแม่พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลย



Credit : http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/2456660:BlogPost:1315758


มีหลายครอบครัวที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจอยากจะสอนลูกให้เป็นเด็กสองภาษา แต่ปัญหาอยู่ที่ว่าอันตัวแม่นั้นมีความรู้ด้านภาษาอังกฤษแค่หางอึ่งแล้วจะสอนลูกได้ยังไง หลายบ้านที่คิดแบบนี้แล้วหยุดความตั้งใจไว้ตรงนั้นปล่อยให้เป็นแค่ความคิดความฝัน แม่ต่ายอยากให้คุณแม่ทั้งหลายที่ประสบปัญหานี้อยู่หยุดความคิดนั้นไปเลยค่ะ เพราะว่าคุณทำได้ค่ะ มีหลายครอบครัวแล้วนะคะที่ประสบความสำเร็จในการสร้างลูกให้เป็นเด็กสองภาษาโดยตัวเองก็ไม่ได้เก่งภาษาอังกฤษเลย เรียนรู้ไปพร้อมๆกันกับลูกจนพูดเก่งพูดคล่อง

บทความนี้แม่ต่ายจะแนะนำแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาแต่มีปัญหาเรื่องภาษาไม่เก่งหรือพูดไม่ได้เลย เผื่อเป็นแนวทาง สามารถนำไปปรับใช้ได้ตามความเหมาะสมและสะดวกกับตัวคุณพ่อคุณแม่เองนะคะ เริ่มกันเลยค่ะ

1. เริ่มเรียนรู้ไปพร้อมๆกับลูกเลย อย่ารอให้ตัวเองได้ก่อนแล้วค่อยสอน สิ่งที่เรารู้อยู่แล้วก็สอนลูกได้เลย สิ่งที่ไม่รู้ก็เรียนรู้ไปพร้อมกัน อย่าหยุดที่จะเรียนรู้ เราเสียเปรียบเรื่องภาษาเรายิ่งต้องพยายามเรียนรู้ให้มากขึ้นเป็นหลายเท่า ท้อได้เหนื่อยได้ แต่อย่าถอย ไม่มีอะไรยากเกินความพยายามและตั้งใจจริงของเรา

2. กำหนดชั่วโมงภาษาอังกฤษ อาจเริ่มต้นจากวันละ 1-2 ชั่วโมง จากนั้นค่อยเพิ่มชั่วโมงขึ้นเรื่อยๆ อย่ากดดัน อย่าฝืนตัวเอง ค่อยเป็นค่อยไป ถ้าเริ่มคล่องแล้วทีนี้จัดเต็มเลยค่ะ ฟุตฟิตฟอไฟได้ทั้งวันเลย

3. เริ่มจากการเรียนรู้คำศัพท์ที่อยู่รอบๆตัวเรา หาคำศัพท์ก่อนแล้วจดใส่กระดาษหรือสมุดไว้หรือทำเป็น mind map ก็ได้ แยกเป็นหมวดหมู่ จะได้หาง่าย เช่น หมวดห้องนอน ห้องครัว ห้องน้ำ เสื้อผ้า เป็นต้น การจำคำศัพท์แบบเป็นหมวดหมู่จะทำให้จำได้ง่ายกว่า เมื่อเรารู้จักคำศัพท์แล้วให้เช็คการออกเสียงที่ถูกต้อง จดคำอ่านไว้ด้วยเผื่อลืม จะได้สอนลูกออกเสียงได้ถูกต้อง

4. เมื่อได้คำศัพท์แล้ว ก็สอนลูก เวลาสอนก็ชี้ไปที่สิ่งของนั้นๆแล้วออกเสียงที่ถูกต้องให้ลูกฟัง พูดบ่อยๆ ทำซ้ำๆทุกวันแล้วเราและลูกก็จะจำได้โดยไม่ต้องไปเปิดสมุดจดดูอีกต่อไป

5. เมื่อมีคลังคำศัพท์ในหัวเยอะแล้ว ก็เริ่มสร้างประโยคคำถาม/คำตอบง่ายๆ เช่น What is this/that? It is a/an.... ถามเองตอบเองเลยค่ะ ถาม-ตอบกับลูกบ่อยๆเดี๋ยวจะจำได้เอง

6. เริ่มใช้ประโยคที่หลากหลายมากขึ้น คำพูดที่เรามักจะพูดในชีวิตประจำวันกับลูก หรือประโยคคำสั่งต่างๆ หาได้จากเว็บ ยูทูป เพจต่างๆ มักจะมีประโยคภาษาอังกฤษที่เรามักใช้พูดกับลูกต่างๆมากมาย จดและจำ นำเอาไปใช้กับลูก แนะนำว่าขอเป็นประโยคสั้นๆก่อนนะคะ อย่าเพิ่งใช้ประโยคแบบยาวๆและซับซ้อน พูดบ่อยๆ ซ้ำๆ เป็นประจำทุกวัน

7. อ่านหนังสือนิทานหรือหนังสืออ่านภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง ถ้าอ่านไม่ได้ เปิดดิกเช็คการอ่านออกเสียงและจดคำอ่านลงไปในหนังสือเลยค่ะ เวลาอ่านให้ลูกฟังจะได้ง่าย ไม่สะดุด ที่สำคัญในหนังสือมักจะมีคำศัพท์ใหม่ๆ ประโยคต่างๆให้เราได้เรียนรู้และนำไปใช้ได้อีกด้วย

8. ฝึกสร้างประโยคพูดคุยกับลูกเอง โดยเน้นประโยคง่ายๆ ใช้ tense ง่ายๆ เช่น present simple, past simple หรือ present continuous ตามโครงสร้างข้างล่างเลยค่ะ
Present simple tense
บอกเล่า :
# ประธาน + กริยาช่อง1 + (กรรม)
# ประธาน + is/am/are + คำนาม/คำคุณศัพท์
คำถาม :
@ Do/does + ประธาน + กริยาช่อง 1 + (กรรม)?
@ Is/Am/Are + ประธาน + คำนาม/คำคุณศัพท์?
ปฏิเสธ :
฿ประธาน + do/does + not + กริยา + (กรรม)
฿ประธาน + is/am/are + not + คำนาม/คำคุณศัพท์

Present continuous tense
บอกเล่า :
# ประธาน +is/am/are+ กริยาเติม ing + (กรรม)
คำถาม :
@ Is/Am/Are + ประธาน + กริยาเติม ing + (กรรม)?
ปฏิเสธ :
฿ ประธาน + is/am/are + not + กริยาเติม ing + (กรรม)

Past simple tense
บอกเล่า :
# ประธาน + กริยาช่อง 2 + (กรรม)
คำถาม :
@ Did + ประธาน + กริยาช่อง 1 + (กรรม)?
ปฏิเสธ :
฿ ประธาน + did + not + กริยาช่อง 1 + (กรรม)

ลองฝึกสร้างประโยคเองง่ายๆแล้วนำไปพูดกับลูกดูนะคะ ถ้าประโยคไหนไม่ชัวร์ลองถามกูรูด้านภาษาดูก่อนนะคะ อย่าพูดแบบผิดๆ เดี๋ยวลูกจะจำแบบผิดๆไปด้วย ถ้ารู้ว่าผิดต้องรีบแก้ไขทันทีค่ะ

9. ฟังเพลง การ์ตูน หรือบทสนทนาที่เป็นภาษาอังกฤษบ่อยๆ ฟังแล้วต้องจำประโยคและนำไปใช้ด้วย

จากแนวทางที่ได้กล่าวมาข้างต้น ถ้าเราทำซ้ำๆบ่อยๆ เราก็จะซึมซับและพูดได้เก่งและคล่องในที่สุด อาจจะเหนื่อยหน่อยนะคะสำหรับคนไม่มีพื้นฐานภาษาเลยแต่อย่าเพิ่งท้อค่ะ ดูครอบครัวอื่นที่เค้าทำได้ไว้เป็นแรงบันดาลใจ ขอเพียงมุ่งมั่นตั้งใจจริง ไม่ทีอะไรยากเกินความพยายามของเราค่ะ

สู้ๆนะคะ
ด้วยรักและปรารถนาดี
แม่ต่าย
ฝากกดติดตามเพจแม่ต่ายด้วยนะคะ แชร์ประสบการณ์การสอนลูกเป็นเด็กสองภาษาและความรู้ด้านภาษาอังกฤษ
ชื่อเพจ น้องเนตั้น น้องเดม่อน เด็กสองภาษาด้วนมือแม่

https://www.facebook.com/nathan2pasa/



House Vocabulary รวมคำศัพท์เกี่ยวกับ"บ้าน"

House Vocabulary รวมคำศัพท์เกี่ยวกับ"บ้าน"

House Vocabulary
Rooms and Areas of a House
bathroom บาธรูมห้องนํ้า
bedroom เบดรูมห้องนอน
den เดนห้องพักผ่อนเพื่อดูทีวี หรืออี่นๆ
downstairs ดาวน์สแทร์ซชั้นล่าง
hall ฮอลล์ห้อโถง
kitchen คิทเชนห้องครัว
living room ลิฟวิ่งรูมห้องนั่งเล่น
master bedroom มาสเทอะ เบดรูมห้องนอนใหญ่สำหรับพ่อแม่
upstairs อัพสแทร์ซชั้นบน
Things in a House
bath บาธอ่างอาบนํ้า
bed เบดเตียงนอน
bedside table เบด ไซดฺ เทเบิลโต๊ะที่วางข้างเตียง
brush บรัชแปรงผม
carpet คาร์ พิทพรม
chair แชร์เก้าอี้
chest of drawers เชลส์ ออฟ
ดรอเออะส
ตู้ลิ้นชัก
closet โคลซ ซิทตู้ฝาผนัง
comb โคมบฺหวี
duvet ดูเว่ทผ้านวม
lamp แลมพฺตะเกียง
mirror มีเรอะกระจก
pictures พิกเชอะสรูปภาพ
pillow พิลโลหมอน
rug รักพรมเช็คเท้า
sheet ชีทผ้าปูที่นอน
shower เชาเออะฝักบัว
sofa โซฟาเก้าอี้นวม
sponge สพันจฺฟองนํ้า
stairs สแทร์บันได
table เทเบิลโต๊ะ
tap แท็พก๊อกนํ้า
telephone เทเลโพนโทรศัพท์
toilet ทอย ลิทส้วม
toilet paper ทอย ลิท เพเพอะกระดาษชำระ
toothbrush ทูธบรัชแปรงสีฟัน
toothpaste ทูธเพสทยาสีฟัน
cushion คูชั่นหมอนอิง
towel เทา เอิลผ้าขนหนู
wardrobe วอร์ โดรบตู้เสื้อผ้า
washbasin วอซ เบซินอ้างล้างหน้า
Outside a House
antenna แอนเทน นะสายอากาศ
back door แบคดอร์ประตูหลังบ้าน
chimney ซิม นีปล่องไฟ
curb เครร์บขอบถนน
driveway ไดรฟว เวถนนจากตัวบ้านเชื่อมเข้าหาถนนใหญ่
front door ฟรันทฺดอร์ประตูหน้าบ้าน
front yard; lawn ฟรันทฺ ยาร์ด ลอนสนามหญ้าหน้าบ้าน
garage กะราจโรงรถ
mailbox เมลบอคซฺตู้รับจดหมาย
porch พอร์ชระเบียงประตู
roof รูฟหลังคา
screen สกรีนมุ้งลวด
screen door สกรีน ดอร์ประตูมุ้งลวด
shingles ชิง เกิลกระเบื้อง
shutter ชัท เทอะหน้าต่างบานเกล็ด
sidewalk ไซดฺ วอคบาทวิถี
skylight สไค ไลท
ช่องกระจกบนเพดานสำหรับให้แสงลอดผ่านได้
ขอบคุณข้อมูลจาก Yindii.com 
ยูทูเบบี้

Credit http://go2pasa.ning.com/profiles/blogs/house-vocabulary

Take it easy!!!

Take it easy!!! ใจเย็นๆ ปล่อยวางและผ่อนคลาย ในเวลาการทำงานอย่างรอบคอบจะมีเรื่องราวให้คิดมาก และอยู่สถานการณ์ภายใต้ภาวะความกดดันบ่อยๆ เราจ...